กลับสู่ด้านบน

7 คนดังที่ตกเป็นเหยื่อโรคซึมเศร้า

7 คนดังที่ตกเป็นเหยื่อโรคซึมเศร้า

ข่าวการตายของ เชสเตอร์ เบนนิงตัน นักร้องดังวง Linkin Park ที่ผูกคอตาย ต้องบอกเลยว่าช็อคความรู้สึกแฟนเพลงไปทั่วโลก และภายหลังจากมีการขุดคุ้ยสาเหตุการฆ่าตัวตาย สิ่งที่น่าเศร้าคือนี่เป็นอีกครั้งที่โลกต้องสูญเสียคนมีความสามารถไป เพราะอาการป่วยจากภาวะ โรคซึมเศร้า

เช็คตัวเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่

เศร้าใจ หม่นหมอง หงุดหงิด รู้สึกผิด สิ้นหวัง คิดว่าตนไร้ค่า ความจำแย่ นอนไม่หลับ และหนักสุดคือคิดถึงแต่ความตาย ถ้าใช่ นั่นอาจหมายถึงคุณกำลังมีภาวะสุ่มเสี่ยงเป็นผู้ป่วย โรคซึมเศร้า อยู่

คำถามคือ? เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าตัวคุณเป็นโรคซึมเศร้า คุณจะทำยังไง ซ่อนตัว เก็บงำอาการไว้เพราะอายที่จะบอกใคร บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก เพราะสิ่งที่คุณต้องทำคือเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง บอกเล่าอาการของคุณกับคนใกล้ชิดเพื่อให้เขาเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ และเมื่อหายดีแล้วคุณจะกล้าออกมายอมรับอย่างไม่อาย เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังจะเป็นหรือเป็นอยู่ให้หาวิธีหลุดพ้นและใช้ชีวิตอยู่กับไอ้เจ้าโรคซึมเศร้าให้ได้ ในวงการบันเทิงโลกเองนอกจากเชสเตอร์แล้ว ก็ยังมีคนดังอีกหลายคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งวันนี้เราได้ยกขึ้นมา 7 คน ดังต่อไปนี้ค่ะ

แองเจลีนา โจลี (Angelina Jolie)

แองเจลินา โจลี นักแสดงรางวัลออสการ์ นอกจากฝีมือการแสดงจะถือได้ว่าเป็นตัวแม่แล้ว เธอยังใจบุญสุดๆ ด้วย เธอทุ่มเททำงานการกุศลมากมาย รับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงถึง 3 คน พ่วงด้วยตำแหน่งทูตพิเศษของสหประชาชาติ(UN) แต่เห็นชีวิตแฮปปี้แบบนี้ จริงๆ แล้วเธอเคยเป็นโรคซึมเศร้าในช่วงวัยรุ่น และมันก็กำเริบอีกครั้งหลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตลงในปี 2007 การเสียชีวิตของแม่เธอทำให้เธอจมดิ่งสู่ความเศร้าอย่างหนักจนไม่อยากจะทำอะไร แต่สุดท้ายเธอก็คิดได้ว่าเธอต้องทำอะไรเพื่อหันเหเธอไปจากความเศร้า เธอจึงเลือกหาทางออกโดยมุ่งทำงานถ่ายหนังหลายเรื่องและเธอก็เอาชนะมันได้อีกครั้งแต่ปัจจุบันเธอยังต้องปรึกษาจิตแพทย์บ้างเพื่อป้องกันการกลับมาสภาวะซึมเศร้าอีก

 

บียอนเซ่  โนวส์ (Beyoncé Knowles)

นักร้องสาวผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค ที่มีคนทั่วทุกมุมโลกอยากตีตั๋วชมคอนเสิร์ตของเธอ แต่ก็เพราะชื่อเสียงทะลุโลกนี้แหละที่เป็นดาบสองคมทิ่มแทงเธอ การที่เธอมีชื่อเสียงโด่งดัง มันทำให้เธอกลัวว่าจะไม่มีใครรักเธอที่ตัวตนของเธอจริงๆ ทำให้เธอตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าและเธอเล่าอีกว่าตอนนั้นเธอกลัวการทำความรู้จักเพื่อนคนใหม่ แม่เธอเลยถามว่า ‘ทำไมลูกถึงคิดว่าใครต่อใครจะไม่รักลูก ไม่รู้หรือว่าตัวเองฉลาด อ่อนหวานและสวยงามขนาดไหน?‘ และนั่นทำให้เธอมีทางเลือกให้ตัวเองสองทาง นั่นคือ ยอมแพ้ หรือ ก้าวเดินต่อไป โชคดีที่เธอเลือกอย่างหลัง มันทำให้เธอผ่านพ้นภาวะนั้นมาได้

 

แบรด พิตต์ (Brad Pitt)

พระเอกชื่อดังของฮอลลีวู้ดอย่าง แบรด พิตต์ ที่แม้จะอายุเยอะแล้วก็ยังหล่อไม่เลิก ตอนนี้ทุกคนคงชินตากับภาพครอบครัว โจลี-พิตต์ แสนสุข แต่หากย้อนไปในช่วงทศวรรษที่ 1990 ณ เวลานั้นเขาต้องจมอยู่กับความหดหู่ พยายามหลีกหนีจากชีวิตแบบคนดัง แถมยังติดบุหรี่อย่างหนักมาแล้ว เขาเคยเผชิญกับโรคซึมเศร้า เคยติดต้องทำนิสัยอย่างเดิมทุกคืนก่อนนอน แล้วก็นับเลขเพื่อให้ตัวเองหลับ พอกลางวันก็แทบจะรอไม่ไหว อยากให้ถึงเวลากลับบ้าน เพื่อจะได้หมกตัวอยู่ในห้อง แต่ตอนนี้มันผ่านไปแล้ว ที่จริงเขาหายมาเป็นสิบปีแล้วนะ และการเป็นโรคนี้ก็ช่วยให้เขารู้จักตัวเองมากขึ้น เขายังบอกอีกว่าเขามองว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดีมาก เหมือนกับว่าเทอมนี้กำลังเรียนวิชาโรคซึมเศร้า อะไรแบบนั้นเลย

 

ไมลีย์ ไซรัส (Miley Cyrus)

นักร้องสาวซ่าส์กับลุค กล้า บ้า เปรี้ยว ไม่แคร์โลก ทำรายได้สูงตั้งแต่อายุยังน้อยจนติดลิสต์ 100 คนดังทรงอิทธิพลของนิตยสารฟอร์บส์ และก็เพราะภาพลักษณ์ ‘จอมแสบ’ ที่ติดตัวนี่แหละที่เป็นเหตุให้เมื่อเธอออกมาสารภาพว่าเป็นโรคซึมเศร้า จึงมีผู้คนกลุ่มหนึ่งสมน้ำหน้า หลายคนมองอาการซึมเศร้าของเธอเหมือนว่าเธอทำตัวน่ารังเกียจ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น เธอเล่าว่าเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอยู่ไม่กี่อย่างที่เธอจะไม่ยอมเปิดใจด้วย และประสบการณ์ทั้งหมดที่เธอเจอ ทำให้เธอรู้ว่าจะช่วยคนอื่นๆ ได้ยังไง เธอยังกล่าวอีกว่าอย่างแรกที่เธอสามารถบอกได้คือเราไม่จำเป็นต้องฝืนทำตัวเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือรู้สึกว่าต้องทำตัวมีความสุขตลอดเวลา มันไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าการต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นมีความสุขแล้วล่ะ

 

เจ. เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling)

เจ. เค. โรว์ลิง หรือชื่อจริงคือ โจแอนน์ โรว์ลิง ที่พวกเรารู้จักกันในฐานะผู้เขียนวรรณกรรมแฟนตาซีชื่อดังแห่งยุคอย่าง “แฮร์รี่ พอตเตอร์” แต่ก่อนที่เธอจะมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ เธอเคยลำบากถึงขนาดต้องพึ่งเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แถมด้วยโรคซึมเศร้า จนเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว เธอเล่าว่าเธอไม่เคยรู้สึกอับอายที่เคยเป็นโรคซึมเศร้านะ ไม่เลย มันไม่มีอะไรต้องอาย เธอเคยเผชิญกับช่วงเวลาที่แย่สุดๆ และเธอเองก็ภูมิใจมากที่ผ่านพ้นมันมาได้

 

เลดี้ กาก้า (Lady Gaga)

มอนสเตอร์สาวซ่าส์ เจ้าของชีวิตสุดรันทด ทั้งชีวิตยากจน พ่อแม่เป็นชนชั้นแรงงาน ติดยา ถูกข่มขืนสมัยเป็นวัยรุ่น ไม่แปลกที่ความบัดซบทั้งหลายทั้งปวงที่เธอเผชิญดึงเธอเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า แต่สิ่งที่สุดยอดกว่าคือความกล้าที่จะพูดถึงมันต่างหาก เธอเล่าว่านั่นเป็นเพราะเธอได้เรียนรู้ว่าความเศร้าโศกไม่ได้ทำลายเรื่องดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น เราก็แค่ต้องหาทางกลับไปสู่ความสุขให้ได้ มองหาแสงสว่างเล็กๆ ที่เหลืออยู่ ซึ่งเธอโชคดีที่หาแสงสลัวๆ นั่นเจอ

 

ดเวย์น จอห์นสัน (The rock)

ก่อนจะมาเป็นนักมวยปล้ำจนโด่งดังนั้น เดอะ ร็อค หรือที่มีชื่อจริงว่า ดเวย์น จอห์นสัน เคยพยายามจะเข้าวงการอเมริกันฟุตบอลมาก่อน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เล่นในลีกคนชนคนระดับโลกอย่าง เอ็นเอฟแอล แถมพอไปอยู่กับทีมในลีกอเมริกันฟุตบอลของแคนาดา เขาก็โดนตัดตัวอีก ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ทำให้เจ้าตัวเกิดอาการซึมเศร้าทั้งที่เพิ่งมีอายุ 23 ปีเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาได้จากการมองในแง่บวกเข้าไว้ เขาได้เล่าถึงอาการซึมเศร้าไว้ว่า “เมื่อมีอาการซึมเศร้าแล้วนั้น หนึ่งในสิ่งที่สำคัญคือคุณต้องรู้สึกตัวให้ได้ว่าคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว คุณไม่ใช่คนแรกที่เจอมัน คุณจะไม่ใช่คนสุดท้ายที่เจอมัน และบางครั้งคุณก็ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นธรรมดา คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่ามีแต่คุณที่เจอมันอยู่บ่อยๆ ผมหวังว่าตอนนั้นจะมีใครสักคนที่ดึงผมออกมาแล้วบอกว่า -เฮ้ มันจะไม่เป็นอะไรน่า-” นักแสดงหุ่นล่ำ ระบุ ดอะ ร็อคกล่าว